Walmart จับมือ Google Home ช้อปปิ้งด้วยเสียงได้เเล้ว!

เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ที่ผ่านมา Walmart เปิดตัววิธีที่ง่ายยิ่งขึ้นในการสั่งซื้อสิ้นค้า เพียงใช้คำสั่งเสียงบนอุปกรณ์ใดๆ ที่มี Google Assistant ซึ่งรวมถึง Google Home, อุปกรณ์แอนดรอยด์เเละไอโฟน ซึ่งในอีกไม่นานจะสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้

การอัพเดทของพาร์ทเนอร์กับ Walmart

แม้จะดูเหมือนการเปิดตัวครั้งใหม่ ความจริงเเล้วนี่คือปรับเปลี่ยนให้ดียิ่งขึ้นจากการประกาศเปิดตัวตอนเดือนสิงหาคมเมื่อสองปีก่อน ในครั้งนั้น Walmart เปิดตัวการสั่งซื้อสิ้นค้าด้วย Google Assistant เเละส่งสินค้าผ่าน Google Express เเต่อย่างไรก็ตาม Walmart ได้หยุดใช้ Google Express ช่วงมกราคมที่ผ่านมา

ภายใต้สถานการณ์ที่เพิ่งเปิดตัว การเริ่มต้นสั่งสินค้าผ่านเสียง ผู้ใช้ต้องเชื่อมบัญชี Walmart เข้ากับบัญชี Google Home เสียก่อน เเละสามารถเริ่มการสั่งซื้อเพียงพูดว่า “โอเค Google คุยกับ Walmart” จากนั้นผู้ใช้จะต้องเลือกร้านที่ต้องการไปรับสินค้า ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี รวมถึงการใช้ Google Home ซึ่งมันจะเลือกร้านค้าที่ใกล้สุดกับที่อยู่ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนกับ Google ไว้

เมื่อทำตามขั้นตอนเหล่านี้เเล้ว ผู้ใช้ก็สามารถเพิ่มรายการสินค้าลงในตะกร้าได้เลย เเละสามารถเพิ่มได้หลายเซต ขั้นตอนสุดท้ายคือการไปรับสินค้าที่ร้านนั่นเอง อาจเป็นไปได้ว่าสินค้าอาจมีบริการจัดส่งได้ด้วย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการเปิดตัวครั้งก่อน

 

เน้นลูกค้าขาประจำของ Walmart

ในขณะที่การสั่งซื้อสินค้าผ่านเสียงของ Walmart ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าประจำเเละลูกค้าใหม่ เเต่จริงๆ เเล้วมันถูกออกเเบบเพื่อส่งเสริมลูกค้าประจำ โดยทาง Walmart ยกตัวอย่างเมื่อลูกค้าใช้คำสั่งเสียง เช่น “เพิ่มนมลงในตะกร้าของฉัน” เจ้าเครื่องอัจฉริยะจะตรวจสอบ เเละเพิ่มนมที่ลูกค้าซื้อเป็นประจำลงในตะกร้า โดยพูดง่ายๆเเค่ ‘นม’ เเทนที่จะต้องพูดยาวๆเช่น “นมออแกนิค 1 แกลลอน”

การเพิ่มสินค้าที่ลูกค้าชอบซื้อเป็นประจำนั้น Walmart มีประวัติการจับจ่ายเเละข้อมูลการซื้อสำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียน ทำให้สะดวกต่อการคัดเลือกสินค้าต่างๆ ในประเภทที่มีการระบุไว้ เช่น นม,ยาสีฟัน,ผงซักฟอก ดังนั้นจึงหมดปัญหาในการสั่งซื้อด้วยเสียง

กรณีการใช้งานที่คาดไว้ อย่างการสร้างชอปปิ้งลิสต์รายสัปดาห์ “เรารู้ว่าพอใช้เทคโนโลยีการสั่งซื้อด้วยเสียง ลูกค้าต้องการเพิ่มสินค้าลงในตระกร้าเมื่อผ่านไปเพียงไม่กี่วัน พวกเขาไม่ได้ซื้อของเพียงครั้งเดียวในหนึ่งสัปดาห์ ฉะนั้นเจ้าเครื่องอัจฉริยะนี้จึงสอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้า”

ผู้ใช้ยังสามารถย้ายระหว่างอุปกรณ์อื่นเพื่อเพิ่มสินค้าลงในบัตรช้อปปิ้งได้ด้วย ตามการรายงานของ Kantar ระบุว่า 12.6% ของผู้ใช้ Google Home เคยสั่งซื้อสินค้าด้วยเสียง

 

ทำไมจึงควรสนใจ?

จากการสำรวจกลุ่มผู้ค้าปลีกของ RetailMeNot ล่าสุด พบว่า ผู้ค้าปลีกส่วนใหญ่ต่อต้านการซื้อผ่านเสียง มีเพียงไม่ถึงสามในสี่หรือ 74 % ของนักการตลาดค้าปลีกที่กล่าวว่าการช้อปปิ้งด้วยลำโพงอัจฉริยะจะกลายเป็น “หัวใจหลักของการช้อปปิ้งภายใน 3 ปี” ซึ่งตัวเลขผู้ค้าปลีกได้กระโดดขึ้นไปมากกว่า 90% ด้วยรายได้ต่อปีที่มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์

จากรายงานประสบการณ์ซื้อด้วยคำสั่งเสียงของ Walmart เราจะเห็นการค้าผ่านเสียงที่เป็นรูปเป็นร่างขึ้น ทั้งการสร้างช้อปปิ้งลิสต์ การกลับมาสั่งซื้อสินค้าซ้ำ ด้วยหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดขึ้นดังนี้

  • ใช้งานบนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย
  • เจาะกลุ่มเป้าหมายไปยังผู้ซื้อเเละการซื้อเดิม ลดการลังเลในการจับจ่ายของลูกค้า
  • การใช้งานเเสนง่ายดาย ช่วยเสริมสร้างความรักต่อเเบรนด์ สู้คู่เเข่งอย่างเพลย์บุ๊คของอเมซอน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วอลมาร์ทได้สร้างประสบการณ์ล้ำๆ อย่างการซื้อออนไลน์-รับของที่ร้าน หรือที่เรียกว่า BOPIS (Buy Online Pick Up In Store) ได้อย่างมืออาชีพ ฉะนั้น เมื่อผู้ใช้ไปยังร้านที่สั่งซื้อของล่วงหน้าเอาไว้ พวกเขาจึงสามารถรับสินค้ากลับได้ทันที

ที่มา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า